ขอบคุณข่าวจาก www.soccersuck.com/ss

Quote Originally Posted by redenzo
เน่าส่งท้าย!สิงห์ฟอร์มบู่พ่ายท๊อฟฟี่สิบตัว 1-0

"ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน"เอฟเวอร์ตันที่เหลือสิบตัวทำเอาอากู๋เซ็งส่งท้ายหลังเปิดบ้านเฉือนเอาชนะเชลซีไป 1-0 ปิดฤดูกาลไปแบบแฟน"สิงห์บูลส์"มีกร่อย

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ 22 พฤภษาคม 2554


สนาม : กูดิสัน พาร์ค

เอฟเวอร์ตัน 1 - 0 เชลซี

ประตู
: เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด น.74


=========คลิปไฮไลท์ เอฟเวอร์ตัน 1-0 เชลซี=========


เกมนี้ไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้วหลังเชลซีคงได้ที่สองแน่นอน คาดว่าเกมนี้อันเชล็อตติจะส่งผู้เล่นเต็มสูบรวมไปถึงตอร์เรสมาล่าตาข่ายเรียกความมั่นใจต่อไป ส่วนเอฟเวอร์ตันก็ไม่ต้องลุ้นอะไรมากมายแต่หากแพ้ก็อาจโดนฟูแล่มเบียดแซงขึ้นไปยึดที่ 7 ได้

ครึ่งแรก

เจ๊เกียวได้โขกแต่บอลชนคาน
นาทีที่ 6 เจ้าบ้านก็เกือบจะขึ้นซะแล้วจากจังหวะเตะมุมเข้ามาแล้วเป็นจากีลก้าได้โขกๆโล่งๆแต่หลักไม่ค่อยดีนึกจึงกดบอลไม่ลงเหินเช็ดคานออกหลังไปอดได้ประตูนำอย่างน่าเสียดาย[imgr]http://d.yimg.com/a/p/sp/ap/0d/fullj.257ef4aafd49b4e64375701234398a1a/ap-201105221056394103569.jpg[/imgr]

รูปเกมยังเรื่อยๆผลัดกันครองบอล
15 นาทีผ่านไปเชลซีเริ่มตุกมเกมได้มากขึ้นเรื่อยๆแต่จังหวะต่อบอลหน้ากรอบเขตโทษยังดูไม่แม่นยำเท่าที่ควรอดลุ้นไปหลายจังหวะ

เบ็คฟอร์ดได้ซัดแต่ติดโคล
เอฟเวอร์ตันเกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากลูกที่โคลแมนทำชิ่งวุนทูกับเบ็คฟอร์ดได้หลุดเข้าไปยิงแต่แอซลี่ย์ โคลยังไววิ่งมาบล็อกลูกยิงไว้ทันและเคลียร์ออกไปได้

อเนลก้าได้ยิงแต่ยังติดบล็อก
เชลซีได้ลุ้นกับเขาซักทีจากจังหวะแลมพาร์ดเบิ้่ลจังหวะออกไปทางขวาให้อเนลก้าที่ยืนอยู่โล่งๆแต่จับบอลจังหวะแรกไม่ดีทำให้ต้องแต่งบอลก่อนจะยิงเลยโดนกองหลังเอฟเวอร์ตันตามมาบล็อกไว้ทัน

รูปเกมสมกับเป็นคู่ที่ไม่ต้องลุ้นอะไร
30 นาทีแล้วแต่ทั้งสองทีมยังเล่นแบบไม่มีอะไรให้ลุ้นมากมายนักโดยจะไปกันในจังหวะสุดท้ายซะส่วนใหญ่

โคลกดเต็มเท้าบอลขึ้นอัฒจันท์
"สิงห์บูลส์"ได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกเปิดทางฝั่งขวาเข้าในแต่โดนเคลียร์ออกไปเข้าทางโคลที่นอกกรอบเขตโทษ กดเต็มข้อแต่บอลเหินออกไปแบบไม่ค่อยใกล้เคียง

เบ็คฟอร์ดได้ซัดแต่แทบไม่ได้ลุ้น
"ท๊อฟฟี่"โยนโอกาสทิ้งไปแบบน่าเสียดายหลังเบ็คฟอร์ดทำชิ่งกับอาร์เตต้าหลุดขึ้นมาทางซ้ายลสกบอลเข้ากรอบเขตโทษและกะยิงเข้าเสาสองแต่สงสัยเท้าจะเรดาห์เสียแปบอลไปหลุดออกเกือบแถวมุมเสาธงโน่นเลย

อเนลก้ากดนอกกรอบแต่เบาไป
ท้ายเกมเชลซีมีจังหวะลุ้นอีกครั้งจากลูกอเนลก้าทำท่าจะกดด้วยขวาก่อนจะล็อกเข้าซ้ายแล้วซัดไกลจากนอกกรอบเขตโทษแต่บอลเบาไปเข้ามือฮาเวิร์ดสบาย

จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังทำอะไรไม่ได้เสมอกันไป 0-0

ครึ่งหลัง

โหด!โคลแมนยันเต็มแข้งใส่มิเกล
ครึ่งหลังผ่านมาได้ 7 นาทีโคลแมนไปเข้าหนักยันเต็มแข้งใส่มิเกล ทำเอาแลมพาร์ดไม่พอใจเดินตรงเข้ามาทั้งสองทีมเลยต้องจับแยกกันไปคนละทิศทางก่อนโคลแมนจะรับใบเหลืองที่สองและออกจากสนามไป

เทอร์รี่ได้ลุ้น!เติมมาได้ซัดแต่บอลชนเสา
เชลซีใช้ความได้เปรียบตัวผู้เล่นเกือบทำประตูขึ้นนำจนได้จากลูกที่เทอร์รี่เติมเกมสูงขึ้นมารับบอลจากโคลก่อนจะกดด้วยขวาเต็มข้อแต่บอลพุ่งชนเสาอดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย

สิบตัวเกือบนำ!เบ็คฟอร์ดซัดติดเซฟ
นาทีที่ 59 เอฟเวอร์ตันที่เหลือสิบคนเกือบขึ้นนำซะแล้วจากลูกที่ฮิบเบิร์ตโยนยาวให้เบ็คฟอร์ดเกี่ยวบอลหลบอเล็กซืก่อนจะหลุดไปได้ซัดแ่ต่เช็คยังเยี่ยมล้มตัวปัดออกไปได้ทัน

สิงห์เสียว!อาร์เตต้าได้ซัดแต่บอลถากเสา
ถึงจะสิบคนแต่"ท๊อฟฟี่"ยังได้ลุ้นเยอะกว่าจากลูกที่เคลียร์กันไม่ขาดมาเข้าทางอาร์เตต้าได้ซัดสับด้วยขวา 25 หลาแต่บอลพุ่งผ่านเสาแรกออกไปอย่างหวาดเสียว

สิงห์ช็อค!เบ็คฟอร์ดซัดพาท๊อฟฟี่พลิกนำ
เอฟเวอร์ตันสิบคนเอาจนได้จากจังหวะโต้กลับของเบ็คฟอร์ดที่ัตัดบอลได้จากฝั่งตัวเองก่อนจะตะลุยเดี่ยวขึ้นมากลางสนามก่อนจะโดนหลังเชลซีมาปั้มบอลแต่ยังกระเด็งมาเข้าทางให้เขาหลุดเดี่ยวไปกระดกบอลข้ามตัวเช็คเข้าประตูไป นาทีที่ 74 เอฟเวอร์ตันพลิกขึ้นนำแล้ว 1-0

อเนลก้าซัดอีกแต่ผ่านเสาแรก
ท้ายเกมอเนลก้าได้ยิงอีกครั้งจากจังหวะที่ได้บอลทางซ้ายก่อนจะค่อยเลี้ยงเข้ากรอบแล้วตัดเข้าในยิงด้วยเท้าขวาบอลพุ่งผ่านเสาแรกไปแบบได้เสียว

จบเกมเอฟเวอร์ตันที่เหลือสิบคนเบียดเอาชนะเชลซีไปได้ 1-0 ปิดฤดูกาลด้วยการจบอันดับ 7 ไปมี 54 แต้มส่วน"สิงโตน้ำเงินคราม"ก็เข้าป้ายด้วยรองแชมป์ไปให้อับราโมวิซปรับทัพกันใหม่เพื่อกลับมาลุ้นกันต่อในฤดูกาลหน้า

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เอฟเวอร์ตัน
: ทิม ฮาเวิร์ด 6.5, ซิลแวงต์ ดิสแต็ง 7, ฟิล จากิลก้า 6.5, เลห์ตั้น เบนส์ 7.5, โทนี่ ฮิบเบิร์ต 7.5, ลีออน ออสแมน 7, แจ๊ค ร็อดเวล 7.5, จอห์น ไฮติงก้า 7, มิเกล อาร์เตต้า 6.5, เซมุส โคลแมน 6, เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด 7.5 (วิคเตอร์ อนิเชบี้ น.80)

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ค 6.5, จอห์น เทอร์รี่ 6, อเล็กซ์ 7 (เปาโล แฟร์เรร่า น.70), แอซลี่น์ โคล 5.5, บรานิสลาฟ อิวาโนวิซ 7, แฟรงค์ แลมพาร์ด 6, จอห์น โอบี มิเกล 4 (โซโลมอน คาลู น.61), มิเชล เอสเซียง 6 (จอร์ซ แม็คแอร็คเค่น น.77), ฟลอร็องต์ มาลูด้า 5.5, เฟอร์นานโด ตอเรส 6, นิโคล่าส์ อเนลก้า 5.5